ตู้คอนเทนเนอร์มีหลายประเภท เช่น ตู้แห้ง (Dry Container), ตู้เย็น (Reefer Container), ตู้เปิดหลังคา (Open Top) และขนาดมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปคือ 20 ฟุต และ 40 ฟุต ซึ่งแต่ละประเภทเหมาะกับสินค้าที่แตกต่างกัน
การเลือกประเภทตู้และขนาดที่เหมาะสมช่วยป้องกันความเสียหายของสินค้า ลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ
ตู้คอนเทนเนอร์ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล (ISO) รวมถึงการตรวจสอบสภาพตู้ก่อนใช้งาน เช่น การรั่วซึม ความแข็งแรงของโครงสร้าง และระบบล็อกประตู
การบรรจุสินค้าภายในตู้ต้องมีการจัดวางอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการใช้วัสดุกันกระแทกและการตรึงสินค้าให้มั่นคง
การเลือกสายเรือและผู้ให้บริการขนส่งที่น่าเชื่อถือ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีติดตามตู้ (Tracking System) ช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะสินค้าได้ตลอดเวลา
ผู้นำเข้าส่งออกควรเข้าใจข้อกำหนดทางศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ เช่น การจัดเตรียมเอกสารใบขนสินค้า ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า และการปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศต้นทางและปลายทาง
การเลือกผู้ให้บริการตู้คอนเทนเนอร์ที่มีประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ เช่น บริษัท ไทยคอนเทนเนอร์กรุ๊ป หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำ จะช่วยให้กระบวนการนำเข้า-ส่งออกเป็นไปอย่างราบรื่น
ตู้คอนเทนเนอร์ต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า